ชีวิตที่สอง

คุณประโยชน์ของชีวิตก็เลยมิได้สื่อความหมายอยู่เพียงแค่ชีวิตเพียงแต่ชีวิตเดียวที่พวกเรารู้จัก แม้กระนั้นอาจมีอีกหนึ่งชีวิตหลบซ่อนอยู่รอคอยให้พวกเราค้นหารวมทั้งดึงเอาความรู้ความเข้าใจนั้นออกมา

ข่าว ปัญหาช่องว่างระหว่างวัยนับว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นมาแล้วในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา อาจเกิดจากมุมมองที่ต่างกันของคนแต่ละวัยทำให้มีแนวความคิดและก็วิถีชีวิตที่แตกต่าง เปลี่ยนเป็นความไม่รู้เรื่องกันและก็ต้านความนึกคิดของกันและกันท้ายที่สุด เมื่อเทคโนโลยีดิจิทัลมาถึง ปัญหาช่องว่างระหว่างวัยดูเหมือนจะยิ่งทวีความร้ายแรงเยอะขึ้น เนื่องจากว่าคนแต่ละวัยต่างมีหนทางสำหรับเพื่อการติดต่อสื่อสารที่เป็นของตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครือข่ายสังคม ซึ่งลดการพูดคุยกันแบบมองเห็นหน้ามองเห็นตาลงมาก ช่องทางสำหรับเพื่อการทำความเข้าใจซึ่งกันและกันรวมทั้งการปรับตัวเข้าพบกันก็เลยเกือบจะไม่เกิดขึ้นเลย ผลที่ได้ขึ้นเป็นความไม่รู้เรื่องกันอย่างหนัก คนรุ่นหลังก็ไม่เห็นคุณค่าของการทำงานหนักของคนสมัยเก่า ด้วยเหตุว่าคิดว่าเป็นสิ่งที่ไม่สำคัญ ในระหว่างที่คนโบราณก็ไม่รู้เรื่องว่าเพราะเหตุไรเด็กรุ่นใหม่ถึงรักความสบาย ดำเนินงานไม่ทรหดอดทน ข่าวเทคโนโลยี ไม่ขยันราวกับรุ่นตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าความนิยม “Slow Life” ที่เคยได้รับความนิยมในสมัยก่อนได้เอามาสู่การใช้ชีวิตแบบสบายๆหรือ Soft Living ในวันนี้ซึ่งพวกเราจะมองเห็นได้จากวิถีชีวิตของคนรุ่นหลังที่มีความเหมือนกัน ได้แก่ การใช้ชีวิตแบบไม่ผูกพันไม่ว่าจะเป็นชีวิตส่วนตัวหรือการทำงานที่ไม่ยึดติดกับอะไร ไม่ราวกับคนโบราณที่ถ้าลงหลักปักฐานปฏิบัติงานที่แห่งไหนแล้วหลังจากนั้นก็ชอบทำงานตลอดไปจนถึงปลดเกษียณ ตอนที่คนสมัยใหม่ไม่ยึดติดกับหน่วยงานที่ทำ รวมถึงสาขาอาชีพที่พร้อมจะแปรไปทำสายงานอื่นได้เสมอ นอกจากนี้ก็มีค่านิยมสำหรับเพื่อการ “Early Retire” หรือการเกษียณตั้งแต่อายุยังน้อยๆซึ่งหลายๆคนบางทีอาจสะสมสินทรัพย์รวมทั้งทรัพย์สินได้มากพอที่มีความรู้สึกว่าจะดำรงชีวิตได้อย่างสบายๆแม้กระนั้นบางทีอาจลืมไปว่าอายุขัยของคนภายในปัจจุบันนั้นนานกว่ารุ่นบิดารุ่นแม่พวกเราหลายเท่า แม้ชิงปลดเกษียณตั้งแต่ 40 ปี แม้กระนั้นอายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 80 ปี โน่นหมายความว่าเขาจะต้องดูแลตนเองถัดไปถึงอีกครึ่งชีวิตอย่างยิ่งจริงๆ