ทันโลกข่าวต่างประเทศ12-10-65

ซาโปริซเซีย ถูกถล่มโรงไฟฟ้าต้องพึ่งเครื่องปั่นไฟฉุกเฉิน

ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาสะพานเคียร์ช ที่เชื่อมระหว่างแผ่นดินใหญ่รัสเซียกับแว่นแคว้นไครภรรยาเกิดการระเบิดรวมทั้งเสียหายอย่างมากนี่เป็นเรื่องที่ไม่มีความต่างจากการดูถูกเหยียดหยามหัวหน้ารัสเซีย

ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาสะพานเคียร์ช ที่เชื่อมระหว่างแผ่นดินใหญ่รัสเซียกับแว่นแคว้นไครภรรยาเกิดการระเบิดรวมทั้งเสียหายอย่างมากนี่เป็นเรื่องที่ไม่มีความต่างจากการดูถูกเหยียดหยามหัวหน้ารัสเซีย ทำให้อับอายขายหน้าได้เท่าๆกับวันที่เรือเที่ยวตรวจมอสควา เรือธงของกองเรือรัสเซียถูกยูเครนทำให้ระเบิดและก็จมลงในสมุทรดำเมื่อม.ย.ก่อนหน้านี้ผู้นำปูติเตียนนสั่งโต้กลับโดยทันทีด้วยการยิงจรวดนำวิถีกระหน่ำกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนเป็นครั้งแรกในรอบนับเป็นเวลาหลายเดือน ภาพความย่ำแย่ของบ้านเรือนในหลายเมืองของยูเครน ข้างหลังถูกกระหน่ำจากจรวดนำวิถีของรัสเซียที่มีปริมาณอย่างต่ำ 75 ลูก ที่กรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน มีแถลงการณ์ว่า มีการรวมกำลังนักดับเพลิงรวมทั้งกลุ่มช่วยเหลือปริมาณหลายร้อยนาย เข้าสกัดการยืนขึ้นลุกลามของเปลวไฟตามที่อยู่อาศัย ตลอดจนร้านรวงต่างๆสื่อเขตแดนกล่าวว่า นักผจญเพลิงยูเครนในกรุงเคียฟ จำเป็นต้องรีบดำเนินการแข่งกับเวลา ข้างหลังมีรายงานความทรุดโทรมตามสถานที่ต่างๆของเมือง เกิดขึ้นโดยตลอด รายงานข่าวสารบอกว่า ในปริมาณอาวุธปริมาณกว่า 75 ลูกที่รัสเซียกระหน่ำยิงเข้าใส่ยูเครนทั้งวันก่อนหน้าที่ผ่านมานั้น ราว 40 ลูก ถูกยิงจากฐานยิงอาวุธที่ตั้งอยู่บนบก ส่วนอีกราว 35 ลูก เป็นอาวุธที่ถูกยิงขึ้นจากเรือรบ ที่ลอยลำอยู่ในสมุทรดำรวมทั้งสมุทรอาซอฟ

อาวุธบางลูก ถูกยิงไปตกลงไปยังสวนสาธารณะรวมทั้งสนามเด็กเล่น ก่อเกิดหลุมขนาดใหญ่จากแรงระเบิด ซึ่งบ่งชัดถึงความร้ายแรงของจรวดนำวิถี ภาพหนึ่งที่ชี้ให้เห็นถึงการเอาจริงเอาจังของการจู่โจมเป็น ภาพของสะพานแขวนกระจกที่ถูกอาวุธร่อนใส่แบบเต็มๆอีกภาพที่มีการแชร์กันมากมายเป็น ภาพที่ ฮิวโก บาเชกา นักข่าวของสถานีวิทยุกระจายเสียงบีบีซี จำเป็นต้องก้มตัวและก็หาเกราะกำบัง เพื่อหลบอาวุธของรัสเซียที่ลอยผ่านเข้ามา ในขณะที่เขากำลังรายงานสดอยู่ในกรุงเคียฟ โดยในคลิปจะได้ยินเสียงของระเบิดดังลั่น ในระหว่างที่จรวดนำวิถีของรัสเซียพุ่งตกใส่จุดหมาย การกลับมาจู่โจมกรุงเคียฟเป็นครั้งแรกตั้งแต่แมื่อรัสเชียจะต้องถอนกำลังทหารที่ล้อมเมืองหลวงที่นี้ออกไปเมื่อสิ้นเดือนมี.ค. ข้างหลังไม่สามารถที่จะฝ่าด่านการตั้งรับที่อดทนของกองกองทัพยูเครนเข้าไปในเคียฟได้ การจู่โจมเคียฟอปิ้งหนักทำให้สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำยูเครนจำต้องออกการตักเตือนถึงประชากรตัวเองให้เข้าที่เข้าทางลี้ภัยหรือเดินทางออกจากยูเครนถ้าหากเป็นได้เนื่องจากว่ายังไม่แน่ใจในเหตุการณ์ที่บางทีอาจแพร่กระจาย อีกจุดหนึ่งที่ถูกจู่โจมหนักเป็น ซาโปริซเซียและก็ก่อนหน้าที่จะยิงกระหน่ำกรุงเคียฟ รัสเซียได้มีการยิงอาวุธอย่างต่ำ 7 ลูกจู่โจมเขตซาโปริซเซีย ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน

ทันโลกข่าวต่างประเทศ12-10-65

ภูมิภาคซาโปริซเซีย เป็นเลิศใน 4 ดินแดนของยูเครนที่รัสเซียประกาศรวมเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา กระทรวงกลาโหมยูเครนเผยออกมาว่า รัสเซียยิงขีท้องนาวุธเข้ามาถึง 7 ลูก โดยจุดหมายจำนวนมากเป็นตึกที่อยู่ที่อาศัยของข้าราชการในเขตซาโปริซเซีย และก็ช่วงการจู่โจมเป็นตอนยามค่ำคืนซึ่งราษฎรส่วนมากกำลังนอนพักอยู่ในบ้านพัก นำมาซึ่งการทำให้มีคนเสียชีวิตอย่างต่ำ 13 รายแล้วก็เจ็บกว่า 90 คน ซึ่งมีทิศทางว่ายอดผู้บาดเจ็บและก็เสียชีวิตที่จริงจริงบางทีอาจพุ่งสูงขึ้นยิ่งกว่านี้ แรงระเบิดที่เกิดขึ้นจากจรวดนำวิถีลูกหนึ่ง ทำให้มีอาคารสูง 9 ชั้นแห่งหนึ่งที่ซาโปริซเซีย พังทลายกระหน่ำลงมาตั้งแต่ตอนช่วงดึก จนตราบเท่าช่วงเวลาเช้าก่อนหน้าที่ผ่านมาพสกนิกรในพื้นที่ก็เลยได้ไปช่วยเหลือกันรื้อถอนซาก เพื่อช่วยผู้ที่บางทีอาจติดอยู่ในตัวตึกออกมา นอกจากที่กรุงเคียฟรวมทั้งซาโปริซเซียแล้ว ยังมีแถลงการณ์ว่าตลอด 1 วันก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา รัสเซียได้ยิงจรวดนำวิถีโจมตีเมืองต่างๆของยูเครนอีกขั้นต่ำ 14 ที่ ซึ่งรวมทั้งเมืองลวิฟ ด้านตะวันตกของประเทศ ที่ตั้งอยู่ใกล้ชายแดนประเทศโปแลนด์ด้วย

รายงานข่าวสารบอกว่า มีการจู่โจมจากจรวดนำวิถีของรัสเซียที่นิคมอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งในเมืองดนีโปร รวมทั้งที่เมืองคาร์คีฟ ลวิฟ เตอร์โนปิล คเมลนีตสกี ซีโตมีร์รวมทั้งที่เมืองวัวรปีฟนีตสกี รัสเซียกลับมาจู่โจมกรุงเคียฟอีกครั้งในรอบ 6 เดือน ข้างหลังสะพานสำคัญที่เชื่อมระหว่างแผ่นดินใหญ่รัสเซียกับแว่นแคว้นไครภรรยา ถูกยูเครนจู่โจมเมื่อวันเสาร์ก่อนหน้านี้ เรื่องที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นการทำลายเครื่องหมายของการเพิ่มแว่นแคว้นไครภรรยาเข้ามาเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของรัสเซียที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2014 หรือเมื่อ 8 ปีกลาย ภาวะปัจจุบันของสะพานเคียร์ช ข้างหลังมีการเกิดระเบิดครั้งใหญ่กระทั่งเสียหายเมื่อวันเสาร์ก่อนหน้านี้มีการเปิดใช้สะพานที่นี้อีกทีภายหลังจากซ่อมส่วนขาเข้าที่ไม่เสียหายเท่าไรนักเป็นที่เป็นระเบียบ ส่วนสะพานขาออกที่เสียหายอย่างมากยังคงถูกปิดไว้ อย่างไรก็ดี แรงสั่นจากระเบิดทำให้องค์ประกอบของสะพานเสียหายอย่างมาก ทำให้จนกระทั่งในช่วงเวลานี้มีเพียงแค่รถยนต์ขนาดเล็กเพียงแค่นั้นที่ได้รับอนุญาตให้สามารถเดินทางผ่านได้ มีชาวรัสเซียเยอะๆที่อยากใช้สะพานที่นี้เพื่อเดินทางเข้าออกระหว่างไครภรรยากับรัสเซีย แต่ว่าเพราะเหตุว่าความย่ำแย่ที่เกิดขึ้นทำให้พวกเขาจำเป็นต้องคอยคิวนานหลายชั่วโมง

อีกทางซึ่งสามารถทำเป็นถ้าเกิดอยากได้เดินทางเข้าออกระหว่างแผ่นดินใหญ่รัสเซียกับประเทศไครภรรยาเป็นการใช้เรือเฟอร์รี่ แม้กระนั้นนั้นก็เป็นตัวเลือกที่ผู้คนไม่นิยมเพราะเหตุว่าไม่สบายพอๆกับการใช้สะพานเคียร์ช เพราะเหตุว่าเรือเฟอร์รี่ออกจะช้ารวมทั้งบรรทุกข้าวของได้ไม่เท่าไรนัก สะพานเคียร์ชอยู่ที่ไหน และก็มีความหมายเช่นไร สะพานเคียร์ช เป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างแผ่นดินใหญ่รัสเซียกับประเทศไครภรรยาของยูเครน ที่ถูกรัสเซียรวมไปเป็นของตนเองเมื่อปี 2014 ซึ่งตอนแรกการเดินทางในจุดนี้มีเพียงแต่บริการเรือเฟอร์รี่ข้ามฝั่งแค่นั้น สะพานที่นี้ถูกผลิตขึ้นโดยรัสเซียเมื่อปี 2018 หรือ 4 ปีภายหลังรัสเซียเพิ่มเติมแว่นแคว้นไครภรรยา โดยเป้าหมายหลักของการผลิตสะพานก็เพื่อทอดผ่านช่องแคบเคียร์ช ระหว่างแหลมตามันกับดินดินแดนครัสโนดาร์ของรัสเซีย รวมทั้งแหลมเคียร์ชของแหลมไครภรรยา สะพานที่นี้มีอีกทั้งเส้นทางของยานพาหนะทั่วๆไปแล้วก็รางรถไฟ ด้วยความยาว 18.1 กิโล ทำให้สะพานที่นี้ขึ้นชื่อว่ามีความยาวที่สุดในรัสเซีย

ในวันที่เปิดใช้สะพานตอนวันที่ 15 เดือนพฤษภาคม 2018 ผู้นำวลาดิภรรยาร์ ปูตำหนิน หัวหน้ารัสเซียได้เดินทางมาประกอบพิธีเปิดการเดินรถบนสะพานที่นี้ แล้วก็ขับขี่รถบรรทุกผ่านสะพาน เป็นครั้งแรกด้วยตัวเอง ในตอนที่ชาวรัสเซียจากแผ่นดินใหญ่มากมาย ฉลองด้วยการขับรถยนต์ผ่านไปที่ไครภรรยา นอกเหนือจากสะพานสำหรับรถยนต์แล้ว ยังมีการสร้างระบบรางเพื่อรถไฟสามารถแล่นผ่านสะพานที่นี้ด้วย รวมทั้งแน่ๆว่า ผู้นำปูว่ากล่าวน เป็นบุคคลแรกที่ได้ใช้บริการรถไฟสายผ่านสะพานเคียร์ชที่นี้ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สะพานเคียร์ช ก็ได้เปลี่ยนเป็นทางหลักของชาวรัสเซียที่เดินทางจากแผ่นดินใหญ่ไปประเทศไครภรรยา ซึ่งเป็นดินแดนที่ถูกรวมเข้ามาใหม่ การเดินทางที่สบายเพิ่มมากขึ้น แล้วก็ทำให้มีอาการชาวรัสเซียเป็นจำนวนมากหลั่งไหลมาที่ไครภรรยา อีกทั้งมาอาศัยถาวร รวมทั้งมาท่องเที่ยวพัก กลอุบายของผู้นำปูว่ากล่าวนที่อยากได้เพิ่มเติมรวมไครภรรยาให้กลมกลืนสูงที่สุดทางด้านกายภาพ สะพานนี้ก็เลยแปลงเป็นเครื่องหมายของการเพิ่มดินแดนที่ผู้นำปูตำหนิท้องฟ้าคกระหยิ่มใจเป็นอย่างมาก

แล้วก็การทำสงครามในยูเครนที่เริ่มเมื่อวันที่ 24 เดือนกุมภาพันธ์ กองทัพรัสเซียใช้สะพานนี้สำหรับในการย้ายที่วัสดุอุปกรณ์ ยุทโธปกรณ์ แล้วก็กำลังพลจากแผ่นดินใหญ่รัสเซียไปยังสนามรบทางตอนใต้ของยูเครน ได้แก่ เคอร์ชอน ซาโปริซเซีย อย่างไรก็แล้วแต่ สะพานนี้เกิดการระเบิดขึ้นอย่างหนักเมื่อวันเสาร์ก่อนหน้านี้ ถนนหนทางสำหรับรถยนต์วิ่งรวมทั้งระบบรางได้รับความทรุดโทรมอย่างมาก รวมทั้งยังทำให้มีคนเสียชีวิตปริมาณ 3 ราย พื้นฐานคาดว่า ข้างรัสเซียบางทีอาจจำต้องใช้เวลาซ่อมสะพานที่นี้ขั้นต่ำราว 2-3 อาทิตย์กว่าจะสามารถกลับมาเปิดให้รถบรรทุกขนาดใหญ่ผ่านได้ดังเดิม ซึ่งในระหว่างนี้ การขนส่งลำเลียงเสบียงกรังและก็อาวุธของรัสเซีย จะต้องหลีกเลี่ยงไปใช้ทางอื่น ซึ่งอ้อมและก็ไกลกว่า แล้วการปะทุสะพานมีผลเช่นไรต่อกองทัพรัสเชีย ไมเคิล คลาร์ก ผู้ที่มีความชำนาญด้านความยั่งยืนและมั่นคงแล้วก็การปกป้องประเทศของอังกฤษ พินิจพิจารณาว่า ถ้าหากพินิจพิเคราะห์ลักษณะของการปะทุของสะพานเคียร์ชที่ปรากฎ ดูราวกับว่าแรงระเบิดจะพุ่งขึ้นมาจาก “ข้างใต้” ของสะพาน ซึ่งทำให้เขามั่นใจว่า สะพานที่นี้ บางทีอาจถูกจู่โจมจาก 2 สิ่ง ต่อแต่นี้ไป

สิ่งแรกเป็น ถูกจู่โจมจากจรวดนำวิถีขนาดใหญ่ ซึ่งใหญ่แล้วก็มีน้ำหนักมากยิ่งกว่าจรวดนำวิถีทุกรุ่นที่ยูเครนมีไว้ในครอบครอง หรือไม่ก็บางทีอาจถูกจู่โจมจากนปพ.ของยูเครน ที่สามารถฝ่ามาตรการรักษาความปลอดภัยที่เคร่งครัดและก็แน่นหนาของรัสเซียในพื้นที่ เล็ดลอดเข้าไปวางระเบิดที่ทางด้านใตนของสะพานได้ ซึ่งการปะทุของสะพานเป็นการตัดเส้นทางขนส่งกำลังบำรุงเส้นสำคัญของรัสเซีย เมื่อสะพานเคียร์ชถูกทำลาย รัสเซียก็เลยบางทีอาจจะต้องเปลี่ยนเส้นทางสำหรับในการส่งกำลังบำรุง โดยใช้ทางที่เริ่มจากชายแดนทางตะวันตกของรัสเซีย ผ่านภูมิภาคดอนบาส ก่อนไปสู่มาริอูปอล และก็เข้าเคอร์ชอน ซึ่งเป็นทางที่ยาวกว่าแล้วก็เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายจากการเช็ดกข้างยูเครนซุ่มจู่โจม นับว่าเป็นการบรรลุเป้าหมายครั้งยิ่งใหญ่ของยูเครน หากแม้ทางการยูเครนจะยังมิได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบอะไรก็ตามและไม่ได้ประกาศตรงๆว่าเป็นฝีมือของตัวเอง แต่ว่าทำการใหญ่ขนาดนี้ มีไม่กี่ข้างที่ทำเป็น แล้วก็นี่ยังนับว่าเป็นการบรรลุเป้าหมายครั้งสำคัญคราวลำดับที่สองของข้างยูเครนในสนามรบด้านใต้ ต่อจากการจมของ “เรือเที่ยวตรวจมอสควา” ซึ่งเป็นเรือรบระดับเรือธงของกองกองทัพรัสเซียในสมุทรดำช่วงวันที่ 14 เดือนเมษายนก่อนหน้านี้

ในช่วงเวลาที่เมื่อคืนนี้ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา อเล็กซานเดอร์ บาสทริกิน ประธานคณะกรรมการสอบปากคำกึ่งกลางรัสเซีย ได้รายงานสรุปการพิสูจน์ในพื้นฐานต่อผู้นำปูว่ากล่าวนว่า ยูเครนอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังการจู่โจมสะพานเคียร์ช แล้วก็การจู่โจมคราวนี้ต่อชาวรัสเซีย มีรัฐบาลของบางประเทศที่ให้ความให้การช่วยเหลือสำหรับเพื่อการเตรียมก่อเหตุ ในเวลาที่ผู้นำวลาภรรยาร์ ปูติเตียนน หัวหน้ารัสเซีย ตอบรับการกล่าวว่า เหตุจู่โจมสะพานไครภรรยาเป็นการก่อให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงที่มียูเครนเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง เพื่อหมายมั่นทำลายองค์ประกอบเบื้องต้นสำคัญของรัสเซีย ข้างหลังรัสเซียออกมายัดเยียดข้อหาว่ายูเครนเป็นเมืองก่อให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงที่ทำลายองค์ประกอบเบื้องต้นของตัวเอง ยูเครนก็ออกมาสวนกลับในทันที ไม่ไคโล โปโดลยัค ที่ปรึกษาของผู้นำ โอ้อวดโลดิมีร์ เซเลนสกี ไม่ยอมรับข้อกล่าวหาของผู้นำปูว่ากล่าวน รวมทั้งโต้ตอบว่าทั้งโลกรู้ดีว่า คนไหนกันเป็นผู้ก่อให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงตัวจริง

สังคม4-10-65 Previous post เตือนประชาชนงดท่องเที่ยวอุทยาน หวั่นเกิดน้ำป่าไหลหลาก
เทคโนโลยี18-10-65 Next post iPhone 15 เปลี่ยนหัวชาร์จแน่! ยุโรปลงมติสุดท้าย สายชาร์จในอียูต้องเป็น USB-C