“พิพัฒน์” ชง ครม. ของบ 8.7 พันล้านฟื้นท่องเที่ยว ลุ้นนำร่อง “บางลา” ปิดผับตี 4
วันนี้ (20 ธ.ค.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะเสนอ “มาตรการด้านท่องเที่ยว” รวม 3 มาตรการ ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา
ธุรกิจ หวังสร้างแรงส่งที่ดีแก่ภาคการท่องเที่ยวทั้งตลาดในและต่างประเทศปี 2566 แข่งขันในศึกเปิดประเทศเต็มรูปแบบ พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า สำหรับ 3 มาตรการ ได้แก่ 1.มาตรการของขวัญปีใหม่ โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5” กระทรวงฯเสนอขอจัดสรรงบประมาณ วงเงิน 5,400 ล้านบาท สำหรับจำนวน 1.5 ล้านสิทธิ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะเสนอเงื่อนไขการใช้สิทธิ ให้ใช้ได้เฉพาะค่าที่พักและคูปองใช้จ่าย โดยมอบส่วนลดที่พัก 40% สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาท/ห้อง/คืน ใช้สิทธิได้ไม่เกิน 10 ห้องหรือคืนต่อคน และคูปองอิเล็กทรอนิกส์สำหรับจ่ายค่าอาหารและท่องเที่ยว มอบส่วนลด 40% สูงสุดไม่เกิน 600 บาท/ห้อง/วัน 2.มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวชุดใหม่ของ ททท. จะเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณ 3,300 ล้านบาท สำหรับส่งเสริมทั้งตลาดในและต่างประเทศ ทดแทนมาตรการบูสเตอร์ช็อตเดิมที่เคยเสนอไปก่อนหน้านี้ วงเงิน 1,000 ล้านบาท “เมื่อรวมทั้งมาตรการของขวัญปีใหม่ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 และมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวชุดใหม่ รวมเป็นวงเงินขอรับการสนับสนุนทั้งสิ้น 8,700 ล้านบาท” และ 3.มาตรการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น. วัตถุประสงค์คือกระตุ้น “เศรษฐกิจภาคกลางคืน” และการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยกระทรวงฯจะเสนอให้นำร่องในพื้นที่ “ถนนบางลา” อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต เพียงที่เดียวก่อน เพื่อดูผลตอบรับว่าเป็นอย่างไร หาก ครม.อนุมัติ คาดจะเริ่มดำเนินการได้ในทันทีตั้งแต่เดือน ม.ค.2566 จากนั้นจะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ เช่น ผู้ประกอบการ ชาวบ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังเปิดดำเนินการไปแล้ว 6 เดือนสำหรับเหตุผลที่เลือกถนนบางลาเป็นพื้นที่นำร่อง เนื่องจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือนมากกว่า 70% เป็นชาวต่างชาติ และจากการเก็บสถิติล่าสุดของจังหวัดที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงสุด 10 อันดับแรก พบว่า “ภูเก็ต” อยู่อันดับ 1 มียอดการใช้จ่ายมากที่สุด 127,927 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่านักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปภูเก็ต ประกอบกับผลวิจัยของ 3 สถาบันชี้ชัดว่าการขยายเวลาปิดสถานบันเทิงจากเวลา 02.00 น. เป็น 04.00 น. จะมีการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 25%
“หากพื้นที่นำร่องถนนบางลาประสบผลสำเร็จ กระทรวงฯจะขยายผลต่อไปยังพื้นที่อื่นๆ”
พิพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ทุกประเทศต่างมุ่งโปรโมทภาคการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เหตุผลของการเสนอขอจัดสรรงบประมาณจาก ครม.ก็เพื่อนำไปทำการตลาดดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติแข่งกับประเทศอื่นๆ ผลักดันให้ได้ตามเป้าหมายปี 2566 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศถึง 20 ล้านคน คิดเป็นการฟื้นตัว 50% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 39.9 ล้านคนเมื่อปี 2562 และช่วยทำให้รายได้รวมการท่องเที่ยวเป็นไปตามเป้าหมาย 2.38 ล้านล้านบาท กลับมา 80% ของปี 2562 “หาก ครม.จัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวชุดใหม่ จะถือเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยสนับสนุนจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยปี 2566 เพิ่มเป็น 25 ล้านคน จากเป้าหมาย 20 ล้านคนในปีหน้า ขณะที่มาตรการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิง จะช่วยเพิ่มการจับจ่ายของนักท่องเที่ยวเพิ่มอีก 25% ช่วยผลักดันให้รายได้รวมการท่องเที่ยวปีหน้า ฟื้นตัว 80% เมื่อเทียบกับปี 2562 ก่อนโควิด-19 ระบาด” ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. กล่าวเสริมว่า หาก ครม.อนุมัติโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในปี 2566 นอกเหนือจากจะเป็นการมอบของขวัญปีใหม่แก่คนไทยแล้ว ยังเป็นมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวที่ตรงกับความต้องการของผู้ประกอบการ สำหรับสถานการณ์ท่องเที่ยว “ตลาดในประเทศ” ตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ย.2565 พบว่า มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยสะสม 219 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 123% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ใกล้เคียงกับจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเมื่อปี 2562 ซึ่งมีจำนวน 222 ล้านคน-ครั้ง ทั้งนี้สร้างรายได้หมุนเวียนสะสมแล้ว 8 แสนล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ 6.5 แสนล้านบาท มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยทั่วประเทศ 48% “ททท.คาดว่าบรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วง 2 เดือนสุดท้าย ตั้งแต่เดือน พ.ย.-ธ.ค. ซึ่งเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน จะช่วยผลักดันอัตราการเข้า ข่าวธุรกิจ พักเฉลี่ยของโรงแรมที่พักในไทยตลอดปีนี้ให้ถึงเป้าหมาย 50%”แน่นอนว่าเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในช่วงฤดูหนาวคือจังหวัดทางภาคเหนือและภาคอีสาน เช่น “เชียงใหม่” ซึ่งคาดว่าเดือน ธ.ค.จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนมากที่สุดใน เห็นได้จากปริมาณผู้โดยสารใช้บริการที่สนามบินนานาชาติเชียงใหม่มีจำนวนประมาณ 20,000 คนต่อวัน และโรงแรมระดับ 2-5 ดาว มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 80%
แนะนำข่าวธุรกิจ อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : อัพเดตตลาด ส.ส.ย้ายพรรค พลังประชารัฐ ปชป.หนีตาย ภูมิใจไทยเฟื่องฟู
